รถเก่า รถมือสอง ซื้อประกันภัยรถยนต์แบบไหนดี

หากใครที่กำลังมองหารถเพื่อซื้อมาขับใช้งาน รถมือสอง ถือเป็นตัวเลือกที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะสามารถจำกัดงบประมาณได้ว่าอยากได้รถประเภทไหน รุ่นอะไร มีลักษณะการใช้งาน ประมาณไหน และมีงบประมาณเท่าไรในการซื้อ แต่ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อนั้น สิ่งสำคัญที่ควรทำก็คือการเช็กประวัติของรถอย่างละเอียด เช็กความสมบูรณ์ของรถส่วนต่างๆ ว่า พร้อมใช้งานหรือไม่ แค่นี้เราก็จะได้รถที่คุ้มค่า คุ้มราคาช่วยประหยัดเงินเราได้มากเลยทีเดียว เมื่อเราได้รถมาแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ขาดไม่ได้ก็คือการทำประกันรถยนต์ เราคงจะเกิดคำถาม แล้วรถยนต์มือสองควรทำประกันรถยนต์ แบบไหนดี? งั้นเราลองมาดูกันเลย

สำหรับผู้ที่มีรถยนต์คู่ใจที่ขับมาเป็นระยะเวลานานแล้ว สภาพรถเริ่มสมบุกสมบันไม่ได้ใหม่เอี่ยมเหมือนตอนออกมาใหม่ๆ สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ขาดไม่ได้สำหรับรถของเรา รวมถึงรถมือสอง ก็คือการทำประกันรถ ซึ่งการเลือกซื้อประกันรถยนต์ควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพรถและการใช้งาน ซึ่งแบ่งสภาพรถไว้ 3 แบบดังนี้

  1.  รถมีสภาพค่อนข้างใหม่มาก (อายุรถไม่เกิน 5 ปี)
  2.  รถมีสภาพไม่ใหม่มาก (อายุรถช่วง 6-10 ปี) 
  3.  รถมีสภาพค่อนข้างเก่า (อายุรถเกิน 10 ปีขึ้นไป) 
ด้วยสภาพรถที่ใหม่และผ่านการใช้งานน้อยนั้น ถ้าหากเรามีงบประมาณมากหน่อย ขอแนะนำ
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ไปเลย จะช่วยคุ้มครองครอบคลุมรถมือสองของเราทุกกรณีมากกว่าประกันประเภทอื่น รับผิดชอบทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณี แม้เป็นอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี เช่น เฉี่ยวเสา ชนกำแพง ไฟไหม้จากห้องเครื่องหรือแม้แต่การถูกโจรกรรมชิ้นส่วนบางส่วน หรือถูกโจรกรรมทั้งคัน ก็สามารถเคลมได้ อีกทั้งไม่ต้องกลัวเรื่องน้ำท่วม ไฟไหม้ หรือถูกโจรกรรม ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะคลอบคลุมทุกกรณี
รถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาได้สักระยะเวลาหนึ่ง สภาพไม่ได้ใหม่มาก มิได้กังวลเรื่องของความเสียหายเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยที่ไม่มีคู่กรณี  แนะนำประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+เพราะให้ความคุ้มครองคล้ายกับประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ในส่วนของเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 2+ นั้นมีเบี้ยประกันที่ไม่ได้แพงมาก เหมาะสมกับคนที่เชี่ยวชาญในการขับรถและไม่ค่อยได้เอารถออกไปขับมากนัก ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ต่างจากประกันรถยนต์ชั้น 1 เพียงเมื่อเกิดอุบัติเหตุต้องระบุคู่กรณีได้  แต่ถ้าชนสิ่งของ เช่น กระถางต้นไม้ เสาไฟ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง แต่ยังคลอบคลุมกรณีไฟไหม้ ถูกโจรกรรม หรือน้ำท่วมและภัยธรรมชาติ แต่สำหรับรถไม่กิน 7 ปี เราก็อาจจะเลือกทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ก็ได้ หากมีงบประมาณพอเพราะจะคลอบคลุมทุกกรณี
เบี้ยประกันภัยแบบประหยัดกว่าประกันชั้น 1 แต่ให้ให้ความคุ้มครองภัยหลัก ได้แก่ ความเสียหายต่อตัวรถยนต์จากสาเหตุสูญหาย ไฟไหม้ และกรณีเสียหายที่มีคู่กรณี ด้วยจำนวนเงินเอาประกันภัยเริ่มต้นที่ 100,000 บาท รวมทั้งให้ความคุ้มครองผู้โดยสาร ผู้ขับขี่และบุคคลภายนอกตามจำนวนเงินเอาประกันภัย สูงถึง 500,000 บาทต่อคน สามารถทำได้โดยไม่ต้องตรวจสภาพรถก่อนทำประกัน จำกัดอายุรถยนต์ ไม่เกิน 20 ปี อีกทั้งยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง มีอู่ซ่อมที่ได้มาตรฐาน A+ มากกว่า 100 แห่ง และอู่มาตรฐานอื่นๆ รวมทั้งอู่ห้างในสัญญาอีกมากกว่า 700 แห่ง ทั่วประเทศไทย มีบริการซ่อมสีรถแบบเร่งด่วน เสร็จภายใน 24 ชั่วโมง คุ้มค่าสุดๆ ไปเลย
  1. คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ที่เอาประกันภัย ตามแผนประกันภัย และทุนประกันภัยที่เลือก สำหรับความเสียหายดังต่อไปนี้
    – ความเสียหายต่อรถยนต์ที่เอาประกันภัยกรณีชนกับ ยานพาหนะทางบก
    – รถยนต์ที่เอาประกันภัยสูญหาย
    – รถยนต์ที่เอาประกันภัยไฟไหม้
  2. คุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสารภายในรถที่เอาประกันภัย สำหรับ
    – อุบัติเหตุส่วนบุคคล
    – ค่ารักษาพยาบาล
    – การประกันตัวผู้ขับขี่
  3. ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
    – ความรับผิดต่อชีวิต
    – ความรับผิดต่อทรัพย์สิน
สำหรับใครที่เลือกซื้อรถยนต์ที่มีสภาพค่อนข้างเก่านั้น แนะนำเลือกซื้อ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+  เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องรถชน รถหาย หรือรถไฟไหม้มากนัก หากจะเลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็อาจจะเกินไปสำหรับงบประมาณ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ จะครอบคลุมเฉพาะอุบัติเหตุรถชนกันแบบมีคู่กรณีเท่านั้นไม่ว่าเราจะถูกหรือผิดก็ตาม ประกันจะชดเชยค่าเสียหายให้ แม้ว่าจะเป็นแค่ประกันรถยนต์ชั้น 3+ แต่ก็ให้ความคุ้มครองที่ไม่แพ้ประกันรถยนต์ชั้น 2+ แถมเบี้ยประกันก็ถูกกว่ามากๆ ซึ่งเรามีไว้ก็อุ่นใจกว่าไม่มีเลย  และยังคงแบ่งเบาภาระความรับผิดตามกฎหมาย ที่ท่านต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายของตัวรถคู่กรณี และความบาดเจ็บของบุคคลในรถยนต์คู่กรณี สำหรับประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ ส่วนใหญ่ จะให้ความคุ้มครองและคุ้มค่าสำหรับรถคันเก่าของเรายังไงบ้างมาดูกันเลย
เป็นแผนประกันรถยนต์แบบเบี้ยประกันภัยชนิดประหยัดมาก แต่ยังคงได้รับความคุ้มครองตัวรถยนต์จากการชนที่มีคู่กรณี ด้วยจำนวนเงินเอาประกันภัยเริ่มต้นที่ 100,000 บาท รวมทั้งยังคงให้ความคุ้มครองผู้โดยสาร ผู้ขับขี่และบุคคลภายนอกตามจำนวนเงินเอาประกันภัย สูงถึง 500,000 บาทต่อคน ไม่ต้องตรวจสภาพรถก่อนทำประกันภัย ซึ่งประกันภัยรถยนต์ประเภท 3+ ไม่จำกัดอายุรถยนต์ อีกทั้งยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมงด้วย
  1. คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ที่เอาประกันภัย ตามแผนประกันภัย และทุนประกันภัยที่เลือก สำหรับความเสียหายดังต่อไปนี้
    – ความเสียหายต่อรถยนต์ที่เอาประกันภัยกรณีชนกับ ยานพาหนะทางบก
  2. คุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสารภายในรถที่เอาประกันภัย สำหรับ
    – อุบัติเหตุส่วนบุคคล
    – ค่ารักษาพยาบาล
    – การประกันตัวผู้ขับขี่
  3. ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
    – ความรับผิดต่อชีวิต
    – ความรับผิดต่อทรัพย์สิน